PowerShell สำหรับปิด Ethernet adapter ใช้คำสั่ง
-------------------------------------------------
# การดูชื่อ adapter ethernet ใช้คำสั่ง PowerShell ว่า
Get-NetAdapter
# การสั่งปิดกรณีชื่อว่า "Ethernet" เป็นชื่อ adapter ทำดังนี้
Disable-NetAdapter -Name "Ethernet" -Confirm:$false
# การสั่งเปิดกรณีชื่อว่า "Ethernet" เป็นชื่อ adapter ทำดังนี้
Enable-NetAdapter -Name "Ethernet" -Confirm:$false
เว็บไซต์ตรวจสอบชื่อ ISP ที่ใช้ https://ipaddress.my
การปิดอัพเดท drivers ใน windows update
gpedit.msc, and press Enter. Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Windows Update > Manage updates offered from Windows Update. ---------------------------
วิธีการ bypass ใช้ Local Account ใน Windows 11
——
Last week, Microsoft removed the 'BypassNRO.cmd' script from Windows 11 preview builds, which allowed users to bypass the Microsoft Account requirement when installing the operating system.
Try the bellow new method.
When installing Windows 11 and you reach the screen asking, "Let's connect you to a network," you can use the Shift+F10 keyboard combination to open a Windows command prompt.
At this prompt, type "start ms-cxh:localonly" and press Enter on your keyboard to open a "Microsoft account" window where you can create a new local user for the Windows 11 install
- กดปุ่ม Shift + F10
- พิมพ์คำสั่ง start ms-cxh:localonly
- จะได้หน้าจอสร้าง local account
วิธีการเปิดใช้งานและตั้งค่าพื้นที่สำหรับ Restore Points บน Windows 11
https://www.techhub.in.th/how-to-create-restore-point-on-windows-11/
WakeOnLan แก้ไขให้ windows เครื่อง Client สั่ง shutdown ได้
https://wakeonlanx.com/wakeonlanx
- เปลี่ยน services ด้วยสิทธิ์ adminstartor ให้เป็น Runing Automatic
> Remote Procedure Call (RPC)
> Remote Procedure Call (RPC) Locator
- เปลี่ยน Windows Firewall
> หัวข้อ Firewall & network protection > Allow an app through firewall > Remote Assistance
> เครื่องหมายถูก เป็น Private และ Public
------ Start Script --------------------------------------------------------
#Folder Path
$FolderPath = "D:Test1"
#Check if folder exists
If (Test-Path $FolderPath) {
# Folder not exist, delete it!
Remove-Item -Path $FolderPath -Recurse
Write-host "Folder Deleted at '$FolderPath'!" -f Green
}
Else {
Write-host "Folder '$FolderPath' does not exists!" -f Red
}
------ End Script --------------------------------------------------------
PowerShell การเปิดสิทธิ์ให้ run ไฟล์สคริป เช่น delfile.ps1 ได้
- ให้เรียกใช้ powershell
- ให้พิมพ์คำสั่ง
วิธีการเปิดสิทธิ์ให้เรียกใช้ PowerShell ได้
Set-ExecutionPolicy RemoteSigned -Scope CurrentUser
วิธีการปิดสิทธิ์ไม่ให้เรียกใช้ PowerShell ได้
Set-ExecutionPolicy Restricted -Scope CurrentUser
- เรียกใช้ไฟล์สคริป เ่ช่น .\delfile.ps1
You need another trick to view the WiFi password when you are not actively connected to the Wi-Fi network. Thankfully, it’s not that hard. All you have to do is execute a couple of commands, and you are done. The only requirement is you should have connected to it previously. If you’ve never connected to it
netsh wlan show profilesnetsh wlan show profile name="ProfileName" key=clear
reference: https://windowsloop.com/view-saved-wifi-passwords-windows/
การเชื่อมต่อให้ใช้แอป Phone Link ติดตั้งจาก Microsoft Store
อ้างอิง https://youtu.be/8Nrkm5FPPEw
วิธีแก้ไขรหัสข้อผิดพลาด 0xc000000e ใน Windows 10
รหัสข้อผิดพลาดการกู้คืน 0xc000000e พีซีของคุณต้องได้รับการซ่อมแซม บ่งชี้ถึงความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์
หรือการกำหนดค่าไดรฟ์ที่ไม่ถูกต้อง และอาจมาพร้อมกับข้อความแสดงข้อผิดพลาดต่างๆ เช่น:
อุปกรณ์ที่จำเป็นไม่ได้เชื่อมต่อหรือไม่สามารถเข้าถึงได้
ไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่จำเป็น
ไม่สามารถโหลดรายการที่เลือกได้
ไม่สามารถโหลดรายการที่เลือกได้เนื่องจากแอปพลิเคชันหายไปหรือเสียหาย
การเลือกบูตล้มเหลวเนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่จำเป็น
0xC000000E หรือ STATUS_NO_SUCH_DEVICE บ่งชี้ถึงความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์หรือการกำหนดค่าไดรฟ์ที่ไม่ถูกต้อง
ตรวจสอบสายเคเบิลของคุณ และตรวจสอบไดรฟ์ด้วยยูทิลิตี้การวินิจฉัยที่มีให้จากผู้ผลิตไดรฟ์ของคุณ
หากคุณใช้ไดรฟ์ PATA (IDE) รุ่นเก่า รหัสสถานะนี้สามารถระบุการกำหนดค่าไดรฟ์หลัก/รองที่ไม่ถูกต้อง
สาเหตุที่แตกต่างกันสำหรับข้อผิดพลาดเหล่านี้คือไฟล์ winload.exe ไม่สามารถเข้าถึงได้หรือเสียหาย
หรือไม่สามารถระบุตำแหน่งบูตสำหรับระบบปฏิบัติการได้ ดังนั้น ในการเริ่มระบบและเข้าถึงระบบปฏิบัติการของเรา เราจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขดังต่อไปนี้
ข้อผิดพลาด 0xc000000e เมื่อพยายามบูตเครื่อง windows หมายความว่าคุณกำลังจัดการกับข้อมูล
การกำหนดค่าการบูตที่เสียหาย ข้อมูลการกำหนดค่าการบูตคือที่เก็บข้อมูลส่วนกลางสำหรับตัวเลือก
และการตั้งค่าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบูตบนพีซี Windows รุ่นใหม่กว่า
คุณจะได้รับข้อผิดพลาดนี้เมื่อพยายามบูตอุปกรณ์ และคุณจะเห็นหน้าจอสีดำที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ
วิธีการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์โดยใช้ดิสก์การติดตั้งหรือไดรฟ์กู้คืน ขออภัย การมีไดรฟ์กู้คืนเป็นวิธีเดียว
ที่คุณจะแก้ปัญหานี้ได้ ดังนั้นคุณควรหาทางรับมือก่อนที่จะเริ่ม หากคุณไม่มี มันค่อนข้างง่ายที่จะสร้าง
โดยใช้เครื่องมือ Rufus หรือ Windows Media Creation จากพีซีเครื่องอื่นหรือแล็ปท็อป
บทช่วยสอนนี้จะใช้กับคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เดสก์ท็อป และแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ
Windows 10 (Home, Professional, Enterprise, Education) จากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่รองรับทั้งหมด
เช่น Dell, HP, Acer, Asus, Toshiba, Lenovo และ Samsung) .
วิธีการ
----------------------------------------------------------------------
หากยังเปิดเข้า windows ได้ให้กดปุ่ม shift และเลือก restart
หน้าจอ Choose an option เลือก Troubleshoot
เลือก command prompt
----------------------------------------------------------------------
คำสั่ง
bootrec /fixmbr
bootrec /fixboot
bootrec /scanos
bootrec /rebuildbcd
กด Continue
วิธีปิดไม่ให้ Windows update ทำการอัพเดท Hardware Driver ต่างๆ ใน Windows 11
- เข้าเมนู System > About > Advanced system setting
- เลือก Hardware > Device Installation Settings
- เลือก No (your device might not work as expected)
---------------------------------------------
หรือใช้วิธีการ
ลิงค์ video อ้างอิง: https://youtu.be/73nwhZfS1t0
วิธีการแก้ไขเมื่อเปิดใช้ Secure Boot แล้ว Windows boot ไม่ได้
ทำการแปลง convert MBR to GPT
- เมื่ออยู่หน้า windows กดปุ่ม Shift + F10
- จะเปิดหน้า Terminal command ให้พิมพ์คำสั่ง diskpart
- จากนั้นคำสั่ง list disk
- เลือกฮาร์ดดิสต์ select disk 0
- คำสั่ง clean
- แปลงดิสต์จาก MBT เป็น GPT โดยใช้คำสั่ง convert GPT
- exit ออก
- boot ใหม่
How to Verify that Secure Boot is Enabled:
https://www.dell.com/support/kbdoc/en-th/000190116/How-to-Enable-Secure-Boot-on-Your-Dell-Device
คำสั่งใน windows ที่ใช้ตรวจสอบ System Information ของเครื่องได้
กดปุ่ม windows ค้นหาคำว่า msinfo32
หากต้องการใช้ Secure Boot ให้สังเกตุหัวข้อ
BIOS Mode: UEFI
Secure Boot State: On