วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563

สรุป Tense 12 แบบ

 รวมโครงสร้าง วิธีใช้ ตัวอย่างประโยค ของ Tense ทั้ง 12 Tenses มาไว้ในที่เดียว!

Image for post

SIMPLE TENSES

pastsim

Past Simple

โครงสร้าง: S. + V.2
ตัวอย่างประโยค:

  • ate pizza yesterday. — ฉันทานพิซซ่าเมื่อวานนี้

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วในอดีตและจบไปแล้ว
ดูตรงไหน: ดูตัวบอกเวลาที่เป็นในอดีต (yesterday, last _) และกริยา
เริ่มกันที่ง่ายๆ ตัวนี้ก่อนเลย เป็นตัวที่บอกเหตุการณ์ในอดีตแบบง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก เป็นเหตุการณ์ที่จบไปแล้ว ให้สังเกตุที่ตัวบอกเวลาว่าเป็นเวลาในอดีตหรือเปล่า


presentsim

Present Simple

โครงสร้าง: S. + V.1(s/es)
ตัวอย่างประโยค:

  • eat pizza regularly. _- ฉันทานพิซซ่าเป็นประจำ _
  • Bangkok is in Thailand. — กรุงเทพฯ อยู่ในประเทศไทย
  • Math class begins today at 9 AM. — คาบเรียนวิชาคณิตเริ่มวันนี้ในเวลา 9 โมงเช้า

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ, สิ่งที่เป็นความจริง, เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ที่กำหนดไว้แล้ว
ดูตรงไหน: ดูกริยาเป็นหลัก และดูคำบอกเวลา/ความถี่
ตัวนี้จะเจอบ่อยในชีวิตประจำวัน ให้ระวังในการใช้ของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะถึงนี้


futuresim

Future Simple

โครงสร้าง: S. + will + V.1
ตัวอย่างประโยค:

  • I will eat pizza tomorrow. — ฉันจะทานพิซซ่าในวันพรุ่งนี้
  • หรือจะแทน will ด้วย is/am/are + going to ก็ได้ มีความหมายเหมือนกัน
    I am going to eat pizza tomorrow. — ฉันจะทานพิซซ่าในวันพรุ่งนี้

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ระบุเวลา
ดูตรงไหน: ดู will / going to และดูคำบอกเวลาในอนาคต


CONTINUOUS TENSES

pastcon

Past Continuous

โครงสร้าง: S. + was/were + V.ing
ตัวอย่างประโยค:

  • I was eating pizza when you arrived. — ฉันกำลังทานพิซซ่าในขณะที่คุณมา

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและถูกแทรกโดยอีกเหตุการณ์หนึ่ง
ดูตรงไหน: ดู was/were และ V.ing เป็นหลัก และดูประโยคที่บอกเวลาว่ามันเกิดในอดีต


presentcon

Present Continuous

โครงสร้าง: S. + is/am/are + V.ing
ตัวอย่างประโยค:

  • I am eating pizza right now. — ฉันกำลังทานพิซซ่าในตอนนี้

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ในขณะที่กำลังพูดอยู่
ดูตรงไหน: ดูความหมายของตัวบอกเวลา และดู V.ing


futurecon

Future Continuous

โครงสร้าง: S. + will + be + V.ing
ตัวอย่างประโยค:

  • I will be eating pizza at 8 PM. — ฉันจะกำลังทานพิซซ่าตอน 2 ทุ่ม
  • I will be watching T.V. when you arrive. — ฉันจะดูทีวีอยู่ตอนที่คุณมา

ใช้ใน: เหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่ระบุไว้, เหตุการณ์ในอนาคตที่ถูกแทรกโดยอีกเหตุการณ์หนึ่ง
ดูตรงไหน: ดูตัวบอกเวลาที่เป็นอนาคต และดูโครงสร้างของประโยค


PERFECT TENSES

pastperfect

Past Perfect

โครงสร้าง: S. + had + V.3
ตัวอย่างประโยค:

  • I had already eaten pizza when you arrived. — ฉันทานพิซซ่าหมดไปแล้วตอนคุณมา
  • I had never been to London before last January. — ฉันไม่เคยไปลอนดอนเลยก่อนเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่จบไปแล้ว ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่สอง
ดูตรงไหน: ดูโครงสร้างของประโยค แล้วเอามาลองแปลเป็นภาษาไทยดู สังเกตุหาคำว่า “already”, “never”, “ever”


presentperfect

Present Perfect

โครงสร้าง: S. + has/have + V.3
ตัวอย่างประโยค:

  • I have already eaten pizza. — ฉันทานพิซซ่าหมดไปแล้ว (และตอนนี้กำลังนั่งจ้องกล่องพิซซ่าเปล่าๆ อยู่)
  • I have been to London. — ฉันเคยไปลอนดอน (เคยเกิดขึ้นในอดีต ตอนนี้อยู่ไทย)
  • He has learned how to drive. — เข้าเรียนรู้วิธีการขับรถ (ตอนนี้ขับเป็นแล้ว)
  • He has not arrived yet. — เขายังมาไม่ถึง (ตอนนี้นั่งรออยู่)

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ไม่เจาะจงเวลา ที่เกิดขึ้นก่อนปัจจุบัน, การเล่าประสบการณ์, ความสำเร็จ, เหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่คาดไว้ว่าจะเกิดขึ้น
ดูตรงไหน: จะไม่มีคำบอกเวลาอย่างเจาะจงเด็ดขาด และดูโครงสร้างประกอบ


futureperfect

Future Perfect

โครงสร้าง: S. + will + have + V.3
ตัวอย่างประโยค:

  • I will have _already eaten pizza by the time you arrive. — ฉันจะทานพิซซ่าหมดตอนเวลาที่คุณมา (ตอนนี้ไม่ได้กิน)
  • หรือจะแทน will ด้วย is/am/are + going to ก็ได้ มีความหมายเหมือนกัน
    I am going to have been here for 3 days by the time he come back. — ฉันจะอยู่ที่นี้เป็นเวลา 3 วันในตอนที่คุณกลับมา (ตอนนี้อยู่ที่นี่)

ใช้ใน: เหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่ง โดยเหตุการณ์แรกต้องเสร็จก่อนเหตุการณ์สอง, เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่และจะเสร็จในอนาคตก่อนเหตุการณ์ที่สองจะเกิด
ดูตรงไหน: จะไม่มีคำบอกเวลาอย่างเจาะจงเด็ดขาด และดูโครงสร้างประกอบ


PERFECT CONTINUOUS TENSES

pastperfect

Past Perfect Continuous

(ภาพคล้าย Past Perfect แต่วิธีใช้ต่างกัน)

โครงสร้าง: S. + had + been + V.ing
ตัวอย่างประโยค:

  • I had been eating pizza for 2 hours when you arrived. — ฉันทานพิซซ่ามา 2 ชั่วโมงตอนที่คุณมา
  • He failed the test because he had not been paying attention in class. — เขาเคยสอบตกเพราะเขาไม่ตั้งใจเรียนในคาบเรียน

ใช้ใน: เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาหนึ่งก่อนจะเกิดอีกเหตุการณ์หนึ่ง, สาเหตุของเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
ดูตรงไหน: ดูตัวบอกช่วงเวลา (for _, since ____) หรือ ดูคำที่บ่งบอกสาเหตุ (เช่น because), ดูโครงสร้าง


presentperfect

Present Perfect Continuous

(ภาพคล้าย Present Perfect แต่วิธีใช้ต่างกัน)

โครงสร้าง: S. + has/have + been + V.ing
ตัวอย่างประโยค:

  • I have been eating pizza for 2 hours. — ฉันทานพิซซ่ามา 2 ชั่วโมงแล้ว

ใช้ใน: เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาหนึ่งจนมาถึงปัจจุบัน และตอนนี้อาจจะเสร็จหรือยังไม่เสร็จก็ได้
ดูตรงไหน: ดูตัวบอกช่วงเวลา (for _, since ____) และดูโครงสร้าง


futureperfect

Future Perfect Continuous

(ภาพคล้าย Future Perfect แต่วิธีใช้ต่างกัน)

โครงสร้าง: S. + will + have + been + V.ing
ตัวอย่างประโยค:

  • I will have been eating pizza for 2 hours when you arrive. — ฉันจะทานพิซซ่าเป็นเวลา 2 ชั่วโมงตอนคุณมาถึง

ใช้ใน: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ได้ทั้งอดีตและอนาคต) ก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งที่จะเกิดในอนาคต และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สอง เหตุการณ์ที่หนึ่งอาจจบหรือยังไม่จบก็ได้
ดูตรงไหน: ดูตัวบอกช่วงเวลา (for _, since ____) และดูโครงสร้าง, สังเกตุคำบอกช่วงเวลาที่บ่งบอกถึงอนาคต


ข้อมูลบางส่วนอ้างอิงมาจาก EnglishPage.com

ภาษาอังกฤษ หลักจำง่ายๆ

 วันนี้ทีนเอ็มไทยจะขอพาเพื่อนๆ น้องๆ ไปติดตาม สรุปหลักการใช้ภาษาอังกฤษ ทริคง่ายๆ รู้ไว้ก่อนไปสอบ ของครูมอส ศรัณญู อินทร์อุริศ ที่ได้สรุปทริคภาษาอังกฤษต่างๆ ที่ต้องเจอในข้อสอบอยู่บ่อยๆ เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจกันมากขึ้น และยังเป็นแนวทางให้น้องๆ สามารถนำไปทำข้อสอบกันได้ เมื่อเราเกิดการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และจดจำโครงสร้างต่างๆ ได้ แม้โจทย์จะออกมาแบบไหน เราก็ต้องทำได้อยู่แล้ว แต่จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยค่ะ…

10402014_1645175969028256_8690873075527691706_n ok
Pronouns คำสรรพนาม

สรุปหลักการใช้ภาษาอังกฤษ ทริคง่ายๆ รู้ไว้ก่อนไปสอบ

11229287_1651425918403261_4607213626294473403_n ok
Quantifiers คำบอกปริมาณ
11760046_1645832955629224_6631512074724830365_n ok
Past Simple Tense
11745610_1643924549153398_7055238999002451215_n
สรุป Grammar
11692723_1643648372514349_2998805231090885985_n
Adverb
ADVERTISING
18798_1643617782517408_7799572587601544609_n
Adjective

11709632_1642982219247631_3986089619736080497_n

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ

 โครงสร้างพื้นฐานในประโยคภาษาอังกฤษประกอบด้วย 2 ส่วน คือ Subject และ Predicate (ภาคประธานและภาคแสดง) โดย Subject อาจเป็นคำนาม คำสรรพนาม หรือกลุ่มคำนาม และ Predicate ประกอบด้วยคำกริยา กรรม หรือส่วนขยาย

1. Subject + Verb
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
Children are laughing.

2. Subject + Verb + Object
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
Jimmy want a car.

3. Subject + verb + Subjective Complement
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
Jimmy became an engineer.
Jimmy is smart

4. Subject + Verb + Indirect Object + Direct Object
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
May gave the waiter a tip.

5. Subject + verb + Object + Objective Complement
ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
Lilly called her brother a gentleman.
Lily call her brother lazy.

รูปแบบที่ 1 ในส่วน Verb ต้องเป็นกริยาที่ไม่ต้องการกรรมตามหลัง หรือ Intransitive Verb

ตัวอย่างเช่น dance, fly, go, come, sleep, stay, run, sit, stand, smile, laugh

รูปแบบที่ 2 ในส่วนของ Verb จะต้องเป็น Transitive Verb คือต้องมีกรรมตามหลัง

ตัวอย่างเช่น give, buy, bring, write, speak, hit, order, wash, clean

รูปแบบที่ 3 ในส่วนของ Verb จะต้องเป็น Verb to be หรือ Linking Verb เท่านั้น

ตัวอย่างเช่น Become, seem, taste, sound, remain, feel และ Subjective Complement หรือ ส่วนขยายประธาน สามารถเป็นได้ทั้งคำนาม และ Adjective

รูปแบบที่ 4 คำว่า Indirect Object หมายถึง กรรมรอง มักเป็นคน และ Direct Object หมายถึง กรรมตรงจะเป็นสิ่งของ

รูปแบบที่ 5 Objective Complement หมายถึง ส่วนขยายกรรม สามารถเป็นได้ทั้งคำนามและ Adjective